Browse By

Monthly Archives: October 2025

เชลซี ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+6 เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1

ค่ำคืนแห่งความดราม่าที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ กลายเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจดจำของฤดูกาล เมื่อ เชลซี สร้างความมหัศจรรย์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+6 ด้วยประตูชัยสุดดราม่าที่ทำให้พวกเขาเฉือนเอาชนะลิเวอร์พูลไปได้ 2-1 ต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่นที่ส่งเสียงเฮกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม เกมนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ ความเข้มข้น และแท็กติกที่เฉียบคมจากทั้งสองฝั่ง ถือเป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างแท้จริง ตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกดังขึ้น เกมดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกใส่กันแบบไม่เกรงกลัว โดยเฉพาะเชลซีที่เล่นด้วยพลังและความมั่นใจในบ้าน ภายใต้การคุมทีมของเอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือหนุ่มที่กำลังได้รับคำชื่นชมอย่างมากในช่วงหลัง เขาวางระบบ 4-3-3 ที่เน้นการครองบอลและการขึ้นเกมจากแนวหลังอย่างมีระเบียบ ขณะที่ลิเวอร์พูลของเจอร์เก้น คล็อปป์ มาในระบบ 4-2-3-1 ที่เน้นการเพรสซิ่งสูงและการสวนกลับที่รวดเร็วเช่นเคย ช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูลครองบอลได้ดีกว่าและมีโอกาสลุ้นก่อนในนาทีที่ 10 เมื่อหลุยส์ ดิอาซ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวา แต่บอลไปติดปลายมือของโรเบิร์ต ซานเชซ นายทวารเชลซีที่พุ่งปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด เสียงเฮของแฟนบอลทีมเยือนที่ยกพลมาเชียร์เงียบลงทันที ขณะที่เชลซีก็เริ่มตั้งเกมได้ในช่วงกลางครึ่งแรก โดยใช้จังหวะต่อบอลสั้นที่รวดเร็วจากเอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ และโคล พาล์มเมอร์

มาร์ก เบร์นาล ถูกเรียกตัวติด ทีมชาติสเปน ชุดยู-21 ปี

มาร์ก เบร์นาล ดาวรุ่งวัย 20 ปี ได้รับการเรียกตัวติด ทีมชาติสเปน ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี แม้เจ้าตัวจะเพิ่งกลับมาลงสนามให้ต้นสังกัดได้ไม่นานหลังจากพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บยาวก็ตาม การถูกเรียกติดทีมชาติครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการยืนยันถึงศักยภาพและพรสวรรค์ของเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่วงการฟุตบอลสเปนยังมีต่อแข้งดาวรุ่งของลามาเซีย มาร์ก เบร์นาล ถือเป็นหนึ่งในนักเตะเยาวชนที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในระบบพัฒนาเยาวชนของบาร์เซโลน่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาเติบโตจากอะคาเดมีลามาเซียที่ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกฝังแท็กติกและจิตวิญญาณของฟุตบอลแบบคาตาลัน ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เบร์นาลก็ได้รับการยกย่องว่ามีสไตล์การเล่นที่ครบเครื่อง เขามีความนิ่ง การอ่านเกมที่เฉียบคม และเทคนิคการคุมบอลที่เหนือกว่าวัย ทำให้หลายคนมองว่าเขาอาจก้าวขึ้นมาเป็นกองกลางตัวหลักของทีมชุดใหญ่ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเขาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ เพราะในฤดูกาลที่ผ่านมา เบร์นาลต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บรุนแรงที่ทำให้ต้องพักยาวกว่า 7 เดือน อาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อหลังต้นขาและหัวเข่าทำให้เขาพลาดโอกาสลงสนามในช่วงเวลาสำคัญของฤดูกาล และเป็นการทดสอบจิตใจของนักเตะหนุ่มคนนี้อย่างแท้จริง ช่วงเวลาที่ต้องอยู่กับความเงียบในห้องฟื้นฟูเป็นเดือนๆ ทำให้เขาเรียนรู้ถึงคุณค่าของการทำงานหนักและความอดทนในแบบที่ไม่สามารถเรียนรู้จากเกมการแข่งขันได้ เบร์นาลกล่าวในบทสัมภาษณ์หลังกลับมาลงสนามว่า “ช่วงที่ผมบาดเจ็บเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นช่วงที่ผมได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ผมเข้าใจว่าการอยู่ในระดับสูงไม่ใช่แค่เรื่องของพรสวรรค์ แต่ต้องมีความแข็งแกร่งทางจิตใจด้วย” คำพูดของเขาสะท้อนถึงวุฒิภาวะที่เกินอายุ และนั่นคือเหตุผลที่โค้ชหลายคนในระบบเยาวชนของบาร์ซ่าต่างยกให้เขาเป็นแบบอย่างของความมุ่งมั่น หลังจากฟื้นตัวเต็มที่ ฟลิคได้ให้โอกาสเบร์นาลกลับมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่และลงสนามในเกมอุ่นเครื่องช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ซึ่งแม้จะได้เล่นเพียงไม่กี่นาที

ฮันซี่ ฟลิค ต้องการเห็นนักเตะบาร์ซ่าแก้ตัวจากเกมพ่าย เปแอสเช บนเวทียุโรป

ฮันซี่ ฟลิค กุนซือชาวเยอรมันของบาร์เซโลน่า ออกมากระตุ้นลูกทีมให้ลืมความผิดหวังจากความพ่ายแพ้ต่อปารีส แซงต์-แชร์กแมง บนเวทียูฟ่า แชมเปียนส์ลีก พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนในทีมรวมพลังกลับมาแสดงผลงานที่คู่ควรกับตราสโมสรอีกครั้งในเกมถัดไป ฟลิคย้ำว่าความพ่ายแพ้คือส่วนหนึ่งของเกมฟุตบอล แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการตอบสนองในทางที่ถูกต้อง ซึ่งบาร์เซโลน่าจะต้องทำให้เห็นในสนาม ไม่ใช่เพียงแค่คำพูด บาร์เซโลน่าภายใต้การคุมทีมของฮันซี่ ฟลิคในฤดูกาลนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ หลังจากผ่านพ้นยุคของชาบี เอร์นานเดซ สโมสรต้องการทิศทางใหม่ที่ผสมผสานความเป็นระเบียบแบบเยอรมันกับเอกลักษณ์ฟุตบอลสไตล์คาตาลัน ฟลิคถูกแต่งตั้งเข้ามาด้วยความคาดหวังสูงว่าจะคืนความมั่นคงและพาทีมกลับมาครองความยิ่งใหญ่บนเวทียุโรปอีกครั้ง แต่การเริ่มต้นของเขาไม่ง่าย เมื่อทีมต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในด้านแท็กติกและสภาพจิตใจของผู้เล่น เกมพ่ายต่อปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-3 ที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เป็นหนึ่งในเกมที่แฟนบอลรู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะแม้ทีมจะครองบอลได้มากกว่า แต่กลับขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย และเปิดช่องให้แนวรุกของเปแอสเชอย่างคีเลียน เอ็มบัปเป้ กับอุสมาน เดมเบเล่ ใช้ความเร็วโจมตีจนแนวรับของบาร์เซโลน่าเสียสมดุล ฟลิคยอมรับหลังเกมว่าทีมของเขายังขาดประสบการณ์ในการรับมือกับจังหวะเปลี่ยนเกมเร็วในระดับนี้ และนั่นคือสิ่งที่ต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 59 ปียืนยันว่าเขายังเชื่อมั่นในศักยภาพของลูกทีมทุกคน เขาเรียกร้องให้บาร์ซ่าลืมความผิดหวังและใช้พลังจากความพ่ายแพ้เป็นแรงผลักดันในการกลับมาสู้ต่อ “เราต้องเรียนรู้จากเกมนั้น มันไม่ใช่เรื่องน่าผิดหวังหากเรานำประสบการณ์นั้นมาใช้พัฒนา เราแพ้ให้กับทีมที่มีศักยภาพสูง แต่สิ่งสำคัญคือเราจะตอบสนองอย่างไรในเกมถัดไป

อาร์เซน่อล 2 – เวสต์แฮม 0

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอยระหว่าง อาร์เซน่อล กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่เอาชนะไปได้อย่างเหนือชั้น 2-0 ในเกมที่เต็มไปด้วยความดุดันและความเฉียบคมทางแท็กติก การกลับมาคว้าชัยในเกมนี้ไม่เพียงช่วยให้อาร์เซน่อลเก็บสามคะแนนสำคัญได้ตามเป้าหมาย แต่ยังตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะทีมลุ้นแชมป์ที่ยังคงรักษาความต่อเนื่องในฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดฤดูกาล ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกม อาร์เซน่อลแสดงให้เห็นถึงความกระหายที่จะเอาชนะอย่างชัดเจน ทีมของมิเกล อาร์เตต้า เปิดเกมรุกใส่เวสต์แฮมตั้งแต่ต้น ใช้จังหวะการเคลื่อนบอลที่รวดเร็วและการเพรสซิ่งสูงเพื่อบีบให้คู่แข่งเสียการครองบอลในแดนของตัวเอง การประสานงานระหว่างมาร์ติน โอเดการ์ด, บูกาโย่ ซาก้า และกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับของเวสต์แฮมอยู่ตลอด โดยเฉพาะการขึ้นเกมทางริมเส้นซ้ายที่มาร์ติเนลลี่จับคู่กับโทมัส ปาร์เตย์ ซึ่งกลับมาลงสนามหลังหายจากอาการบาดเจ็บ เวสต์แฮมของเดวิด มอยส์ พยายามตั้งรับอย่างมีวินัย ใช้ระบบ 5-4-1 เพื่อจำกัดพื้นที่ในแดนกลางและหวังอาศัยจังหวะโต้กลับจากจาร์ร็อด โบเว่น และมิชาอิล อันโตนิโอ แต่เกมนี้แนวรับของอาร์เซน่อลที่นำโดยวิลเลี่ยม ซาลิบา และกาเบรียล มากัลเญส

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – ซันเดอร์แลนด์ 0 ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ค่ำคืนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับมาเต็มไปด้วยสีสันและความเร้าใจอีกครั้งที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะซันเดอร์แลนด์ไปได้ 2-0 ในเกมที่เต็มไปด้วยจังหวะเข้มข้น แผนการเล่นที่รัดกุม และความมุ่งมั่นที่สะท้อนให้เห็นว่าปีศาจแดงกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวภายใต้การนำของกุนซือที่พยายามสร้างทีมขึ้นใหม่อย่างมีระเบียบ การเก็บสามคะแนนในเกมนี้ไม่เพียงช่วยให้พวกเขากลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นพื้นที่ยุโรป แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะและแฟนบอลที่รอคอยผลงานที่มั่นคงมานาน ตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและจังหวะการเล่นที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ทีมเจ้าบ้านเน้นการครองบอลในแดนกลางและพยายามเจาะแนวรับของซันเดอร์แลนด์ที่ลงมาเน้นเกมรับแน่นหนา การประสานงานระหว่างบรูโน่ แฟร์นันด์ส, เมสัน เมาท์ และมาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหัวใจสำคัญของเกมรุก พวกเขาสามารถต่อบอลสั้นรวดเร็วและสร้างสรรค์โอกาสได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของความเข้าใจในระบบการเล่นที่เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น แม้ซันเดอร์แลนด์จะมาในฐานะทีมเยือนที่อยู่โซนล่างของตาราง แต่พวกเขาก็ไม่ได้มาแบบยอมแพ้ กลับตั้งรับอย่างมีระเบียบและอาศัยจังหวะโต้กลับเร็วจากริมเส้นฝั่งขวาที่มีความเร็วเป็นอาวุธ อย่างไรก็ตาม แนวรับของแมนฯ ยูไนเต็ด นำโดยลิซานโดร มาร์ติเนซ และราฟาเอล วาราน ยังคงเล่นได้อย่างเหนียวแน่นและมีสมาธิสูง จนสามารถตัดบอลสำคัญได้หลายครั้ง รวมถึงการช่วยกันป้องกันในจังหวะลูกตั้งเตะที่ซันเดอร์แลนด์พยายามใช้จุดเด่นด้านร่างกายเข้าทำ ประตูแรกของเกมมาถึงในนาทีที่ 29 เมื่อบรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดบอลทะลุช่องอย่างเฉียบคมให้แรชฟอร์ดหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ

โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ปัดการต่อสัญญาใหม่ที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค

โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เฮดโค้ชชาวออสเตรียของสโมสรคริสตัล พาเลซ ออกมาให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า เขาไม่ได้ปฏิเสธการต่อสัญญาใหม่กับสโมสรตามที่มีกระแสข่าวออกมาในสื่อช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบอร์ดบริหารยังคงแน่นแฟ้นและเต็มไปด้วยความเข้าใจร่วมกัน เป้าหมายของเขายังคือการพาทีมเดินหน้าสร้างความมั่นคงในระยะยาว พร้อมผลักดันพาเลซให้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมที่มีศักยภาพพอจะต่อกรกับสโมสรชั้นนำของพรีเมียร์ลีกได้ในอนาคต ข่าวลือดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหลังจากมีรายงานว่ากลาสเนอร์ไม่พอใจในเรื่องของงบประมาณการเสริมทัพและการวางแผนโครงสร้างทีมในอนาคต ซึ่งทำให้หลายสำนักข่าวตีความว่าเขาอาจไม่ต้องการต่อสัญญาฉบับใหม่ที่ทางสโมสรเตรียมเสนอให้ อย่างไรก็ตาม เฮดโค้ชวัย 50 ปีรายนี้ได้ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองว่าข่าวลือทั้งหมดไม่มีมูลความจริง พร้อมระบุว่าเขายังรู้สึกผูกพันกับสโมสรแห่งนี้และเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้เล่นชุดปัจจุบันในการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม กลาสเนอร์กล่าวว่า “ผมไม่เคยปฏิเสธการต่อสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น การเจรจายังอยู่ในขั้นตอนปกติและเป็นไปด้วยดี ผมกับบอร์ดบริหารของพาเลซมีความเข้าใจตรงกันในเรื่องของวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาทีม สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่แค่สัญญาใหม่ แต่เป็นการเห็นสโมสรเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง” คำพูดของเขาสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติของโค้ชที่เน้นการสร้างทีมระยะยาวมากกว่าผลลัพธ์เฉพาะหน้า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งในถิ่นเซลเฮิร์สต์ พาร์ค กลาสเนอร์ได้ปรับโฉมแนวทางการเล่นของพาเลซให้มีความชัดเจนและสมดุลมากขึ้น เขาเน้นให้ผู้เล่นเข้าใจบทบาทของตนเองในแต่ละตำแหน่ง ใช้ระบบที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนตามคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในฤดูกาลปัจจุบัน พาเลซแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการครองบอล การป้องกัน และความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการทำงานหนักของทีมสตาฟฟ์และความมุ่งมั่นของนักเตะทุกคน แฟนบอลของพาเลซจำนวนมากต่างให้ความเคารพต่อกลาสเนอร์ในฐานะโค้ชที่มีวิสัยทัศน์ เขาไม่เพียงเป็นนักวางแผนที่ละเอียด แต่ยังมีความสามารถในการดึงศักยภาพของนักเตะออกมาได้สูงสุด โดยเฉพาะผู้เล่นดาวรุ่งที่เริ่มได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องภายใต้การคุมทีมของเขา เช่น เอบีเรชี เอเซ่, ไมเคิล โอลิเซ่ และตัวรุกดาวรุ่งอีกหลายรายที่ได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นผู้เล่นระดับพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง